เมนู

ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด ฯ ล ฯ
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ

วจีสังขารมูล


วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-


[1202] วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตต-
สังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี ปัจ-
ฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่
กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌานอยู่ก็ดี วจีสังขารไม่ใช่
จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารจักดับแก่บุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่จักเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับ
แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด ฯ ล ฯ
ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
อนาคตวาระ จบ

ปัจจุปปันนาตีตวาระ อนุโลม


ปุคคลวาระ


กายสังขารมูล


กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-


[1203] กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็เคยดับ
แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
ใช่.
ก็หรือว่า วจีสังขารเคยดับแก่บุคคลใด, กายสังขารก็กำลังเกิด
แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัสสาสะ
ปัสสาสะเสียแล้ว ในปุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธ-
สมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารเคยดับ
แก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ใน
อุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ วจีสังขารเคยดับ และกายสังขาร
ก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ฯ ล ฯ
ในอุปปาทวาระ ปัจจุปปันนาตีตปุจฉา อนุโลมก็ดี ปัจจนิก
ก็ดี ท่านจำแนกไว้แล้วโดยประการใด, แม้ในอุปปาทนิโรธวาระ
ปัจจุปปันนาตีตปุจฉา อนุโลมก็ดี ปัจจนิกก็ดี ก็พึงจำแนกโดยประการ
นั้น.
ปัจจุปปันนาตีตวาระ จบ